Dune Part Two (2024) ดูน ภาค 2 มหากาพย์ไซไฟอวกาศที่เขาบอกกันว่านำมาสร้างภาพยนตร์ได้ยากที่สุดเล่มหนึ่งของโลก แต่ว่าก็มีคนเอามาทำเป็นหนังรวมทั้งซีรีส์ไปแล้ว แม้กระนั้นคงจะไม่มีเวอร์ชันไหนทำเป็นดีและก็ถึงพอๆกับเวอร์ชันนี้ ข้างหลังเริ่มด้วยภาคแรกในปี 2021 รวมทั้งลุ้นกันหนักว่าจะได้สร้างต่อมั้ย ก็ปรากฏว่า ในอีก 3 ปีต่อมา ผู้ชมก็สมหวังจนได้ ‘Dune Part Two’ หรือชื่อไทย ‘มองน ภาคสอง’
กลับมาอีกทีกับ Dune Part Two (2024) ดูน ภาค 2 มหากาพย์ภาพยนตร์ Sci-Fi ที่ปี สืบต่อตำนานการเสี่ยงอันตรายที่สร้างมาจากนิยายโด่งดังของ Frank Herbert ดูแลโดย Denis Villeneuve บรรลุเป้าหมายจาก Dune ภาค 1 ออกฉายทีแรกเมื่อปี 2021 และก็ได้รับรางวัล Academy Award ถึง 6 รางวัล โดยการกลับมาคราวนี้เป็นการเดินเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้นกว่าภาคที่แล้วใน Dune Part Two ขึ้นแท่นหนังฟอร์มยักษ์พร้อมเข้าฉายในระบบ IMAX เนื้อหานี้ ไทยเมืองออนไลน์นำรีวิวรวมทั้งสาระน่าดึงดูดมาฝากกัน
เรื่องย่อ Dune: Part Two เรื่องราวในภาคนี้จะตลอดจากเหตุใน Dune ภาคแรก ภายหลังที่บิดารวมทั้งคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวถูกฆ่า Paul Atreides (รับบทบาทโดย Timothée Chalamet) และก็ Lady Jessica แม่ของเขาได้หลบซ่อนไปอยู่กับ Chani ในเผ่าเฟรเมน โดยจะติดตามเรื่องราวการเดินทางของ Paul ที่คิดแผนหาทางที่จะทวงแค้นคนที่อยู่เบื้องหลังการถึงแก่กรรมของบิดาและก็ครอบครัวของเขา ในเวลาเดียวกันเขาก็จำเป็นต้องพบเจอกับหนทางระหว่างความรักหรือชะตาชีวิตของจักรวาล ซึ่งสุดท้ายแล้วจะเป็นยังไงนั้น ทุกคนจำเป็นต้องไปรับดูด้วยตาตนเอง
Dune Part Two (2024) ดูน ภาค 2 ก็เป็นหนังแอ็คชั่นเสี่ยงอันตรายที่ถ้ามองเอามัน หนังก็ยังบันเทิงใจเพลิดเพลินใจ แม้กระนั้นถ้ามองเอารายละเอียดแล้วก็หลักสำคัญที่อยู่ภายในก็มอบให้ได้หลายมุมเหมือนกัน แล้วก็ที่สำคัญเป็นจำเป็นต้องมองในโรง IMAX แค่นั้น และก็ประสิทธิทั้งยังภาพแล้วก็เสียงดำเนินการอยางเต็มเปี่ยมที่สุด ส่วนตัวสำหรับเราให้แต้มหนังประเด็นนี้ที่ 8.5 เต็ม 10
ลักษณะเด่น Dune Part Two (2024) ดูน ภาค 2
- เป็นการดัดแปลงแก้ไขจากนิยายที่มีความสลับซับซ้อนให้ออกมาเป็นหนังไซไฟสำราญใจที่ยังคงหัวใจของเรื่องราวไว้ได้
- การแสดงของทั้งยัง หนโมธี ชาลาเมต์, เซนเดย์อา แล้วก็รีเบคกา เฟอร์กูสัน เป็นหัวใจหลักสำหรับการถ่ายทอดการสู้รบความนับถือที่เกิดท่ามกลางวิกฤติล่าอาณานิคมได้อย่างดีเยี่ยม
- งานสร้างยอดเยี่ยม วิช่วลเอฟเฟกต์แนบเนียนเหมือนจริง สมราคาหนังฟอร์มยักษ์
- ภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ที่ Denis Villeneuve ตื่นเต้นสูงที่สุดในชีวิตการทำงาน
ภายหลังจาก Dune Part Two (2024) ดูน ภาค 2 เข้าฉายอย่างเป็นทางการในปี 2021 ภาพยนตร์ก็ได้เสียงยกย่องจากนักวิพากษ์วิจารณ์และก็ผู้ชมทั้งโลกอย่างล้นหลาม ด้วยการกวาดรายได้รวมทั้งโลกไปกว่า 433 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะผ่านตอนเหตุการณ์วัววิดได้ไม่นาน และก็ได้รับคะแนนรีวิวจากนักวิพากษ์วิจารณ์บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes มากถึง 83% และก็คะแนนจากผู้ชมทั่วๆไปมากถึง 90% ไม่เพียงแค่นั้นภาพยนตร์ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscars สูงถึง 10 สาขา และก็สามารถครอบครองรางวัลทางด้านเทคนิคมาได้ทั้งหมดทั้งปวง 6 สาขา ได้แก่ ดนตรีประกอบเยี่ยมที่สุด ควบคุมภาพเยี่ยมยอด วางแบบงานสร้างเยี่ยมยอด อื่นๆอีกมากมาย
ด้วยการบรรลุเป้าหมายระดับการเกิดกลุ่มนี้ก็ส่งให้ค่าย Warner Bros. Pictures แล้วก็ Legendary เปิดไฟเขียวให้ผู้กำกับ Denis Villeneuve สืบต่อเรื่องราวของ Paul Atreides (Timothée Chalamet) แล้วก็มหาการศึกระดับจักรวาลต่ออย่างเร็ว โดย Dune: Part Two จะเป็นการนำรายละเอียดครึ่งเล่มข้างหลังของนิยาย Dune เล่มแรกของผู้เขียน Frank Herbert มาดัดแปลงเป็นฉบับภาพยนตร์ ซึ่งจะพาพวกเราไปติดตามทางการทวงแค้นของ Paul ที่ถูกเชื้อสาย Harkonnen ลอบฆ่าผู้เป็นบิดาและก็กองทัพ Atreides จนถึงวอดวาย
ดาราภาคนี้ก็ไม่มีผู้ใดยอมใครกันแน่ ทุกคนต่างใช้ความสามารถชั้นเซียนสำหรับการสู้ผ่านซีนภาพยนตร์ ตอนภาคแรกก็ว่าศิลปินเบอร์ใหญ่เยอะแยะแล้ว ภาคนี้ก็มาสมบทกันอีก เสริมภาพให้หนังมองยิ่งใหญ่มากมายๆโดยเฉพาะภาคนี้ผู้ใดกันแน่เป็นแฟนของ Zendaya ก็ดีแล้วดวงใจกันได้ครับผมเพราะว่าภาคนี้นางบทเยอะแยะแล้วก็เด่นชัดมากยิ่งขึ้น ส่วนพี่ Timothee Chalamet ก็บอกให้เห็นของการเจริญเติบโตของพอลได้อย่างยอดเยี่ยม ก็ไม่มีอะไรจะติเตียนอีกล่ะเรื่องดาราหนัง
ผู้กำกับ เดนิส วิลเนิฟ สืบต่อมหากาพย์ไซไฟในตำนานที่เขาบอกกันว่าสร้างเป็นหนังได้ยากที่สุด แม้กระนั้นเขาทำเป็นอีกที ด้วยหนังภาคต่อที่ยาว 2 ชั่วโมง 46 นาที เล่าต่อจากภาคแรกโดยไม่ต้องปูอะไรอีกแล้ว เริ่มมา ก็พบกับฉากแอ็คชันเลย จำต้องกล่าวว่า ภาคนี้ ฉากการรบมาเต็มกว่าภาคแรก ฉากหนอนทะเลทรายก็จัดเต็มมากยิ่งกว่าอีกเหมือนกัน ภาคนี้พวกเราจะได้มองเห็นความก้าวหน้าของ พอล อะเทความชอบใจส ที่เติบโตไม่เหมือนกันกับชายหนุ่มในภาคก่อน กับนักแสดงใหม่ที่ชักชวนละลานตา รวมทั้งผู้แสดงลับที่พาเซอร์ไพรส์ พร้อมดนตรีประกอบเอะอะตึงตังถูกใจจาก ฮานส์ ซิมเมอร์ เหมือนเคย
ส่วนการดำเนินเรื่องของภาคนี้นั้นก็เป็นอะไรที่เพลิดเพลินมากมายครับผม ตัวหนังทำเอาผู้ชมต่างราวกับอยู่ในความคิดความฝันเลยจริงๆแถบจะมิได้ละสายตาจากหนังเลยจริงๆเพราะว่าเนื่องจากว่ารายละเอียดนั้นน่าดึงดูด บวกกับการเล่าที่แบบยิ่งใหญ่เนี้ยล่ะขอรับ นอกเหนือจากการดำเนินเรื่องที่น่าดึงดูดแล้ว พวกความแอ็คชั่นนี้ก็จำต้องชูให้เขาเลยจริงๆตื่นเต้นและก็มีให้ลุ้นกันตลอดทั้งเลยเลยนะครับ นอกเหนือจากความแอ็คชั่นที่โคตรเดือดแล้ว ด้านของงานภาพนี้ก็โอเคมากนะครับ พูดได้ว่า ทั้งยังภาพอีกทั้งเสียงเป็นมาครบ หนำใจ สมกับกับเป็นมหากาพย์ภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์เลยล่ะขอรับ
รีวิวหนัง จริงๆแล้ว ‘DUNE’ มันเป็นวรรณกรรมจาก แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ที่เผยแพร่มาตั้งแต่ปี 1965
ใครๆที่อ่านก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องราวมันสลับซับซ้อนรวมทั้งจะต้องพึ่งพิงงานสร้างที่ยอดเยี่ยมเอามากๆเคยมองเวอร์ชันก่อน ของ เดวิด ลินช์ ก็จำต้องพูดว่า อีกทั้งยาว อีกทั้งมองยากและไม่รู้เรื่องอยู่หลายจุด จนกระทั่งมาได้พบเวอร์ชันนี้ของ เดนิส วิลเนิฟ ที่เลือกสร้างแบบแยกส่วน แล้วไปวัดดวงเอาว่า ผลตอบรับจะดีพอให้ไปต่อไหม
ด้วยงานสร้างที่น่าทึ่งในทุกส่วนประกอบ ทั้งยังภาพ เสียง โปรดักชัน แล้วก็การแสดง บางทีอาจกล่าวได้ว่า เลือกผู้กำกับได้ถูกคน แถมเทคโนโลยีก็ถึงพร้อมแล้วอีกต่างหาก แต่ว่าถึงแบบงั้น ‘Dune’ ภาคแรกก็ไม่ใช่จะเข้าถึงได้กับทุกคน ใช่ล่ะ มันเป็นภาคปฐมบทที่เล่าปูพื้นของจักรวาลมองน ที่มีเนื้อหาออกจะมาก รวมทั้งเป็นภาคที่มีฉากแอ็คชั่นน้อย ก็เลยทำให้หลายๆคนบางทีอาจอยากนอนหลับ รวมทั้งตื่นมาในฉากที่มีดนตรีประกอบอันเอะอะกระโดดกระเด้งของ ฮานส์ ซิมเมอร์
โดย Denis Villeneuve เล่าว่าความท้าสำคัญสำหรับการสร้างหนัง Dune: Part One เป็นการชี้แนะให้ผู้ชมได้ทราบจะกับจักรวาลอันยิ่งใหญ่ของ Frank Herbert ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเนื้อหายิบย่อยล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นระบบการปกครอง ความเชื่อมโยงของเครือญาติใหญ่ วัฒนธรรมของแต่ละสังคม ไปจนกระทั่งความเลื่อมใสความเชื่อถือ
แต่ว่าเมื่อ Dune Part Two (2024) ดูน ภาค 2 ปฏิบัติภารกิจปูเรื่องราวฐานรากให้ผู้ชมได้รับรู้ว่าคนใดกันแน่เป็นคนใดกันกันแล้ว การผลิต Dune: Part Two ก็เลยทำให้ Denis Villeneuve แล้วก็กลุ่มสร้างสามารถให้ร้ายคิดประดิษฐ์ลงไปในรูปภาพยนตร์ได้อิสระมากขึ้นเรื่อยๆ ลงลึกในเนื้อหาได้มากขึ้น แล้วก็สามารถยกฐานะหลายๆส่วนประกอบของเรื่องให้ยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆกว่าเดิม ฉะนั้น Dune: Part Two ก็เลยเปลี่ยนเป็นโปรเจกต์ภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ที่ Denis Villeneuve ตื่นเต้นเยอะที่สุดในชีวิตการทำงาน
อีกสิ่งที่ในภาคนี้ยังคงทำเป็นดีอย่างเดิมเลยก็คือไดอะล็อกบทสำหรับพูดของผู้แสดง มีซีนที่น่าจำหลายซีนมากมาย บทสนทนาพวกนั้นมันช่วยสะท้อนให้พวกเราได้ทราบจะผู้แสดงแต่ละตัวเพราะว่าเขาเป็นแบบไหน ผู้แสดงหลักทุกตัวมีจุดยืนที่แจ่มกระจ่างกันมากมาย ทุกคนมีเป้าหมายของตน รวมทั้งจำต้องต่างหักเหลี่ยมเชือดคมกันเล่นเกมการบ้านการเมืองเพื่อหวังอำนาจ ซึ่งมันเป็นหนังไซไฟอวกาศที่มิได้ย้ำเรื่องความเพลิดเพลินเป็นหลัก
แต่ว่าจะออกแนวเอาจริงเอาจังและก็มีรายละเอียดหนักๆย้ำไปที่เกมการบ้านการเมือง ความโหดร้ายทารุณของการทำศึก ไปจนกระทั่งการใช้ความเลื่อมใสและก็ความมุ่งมาดชักนผู้คน ซึ่งการที่มีรายละเอียดหนักๆแบบงี้แต่ว่าจะก่อให้ออกมาบันเทิงใจได้นั้นมันค่อนข้างจะยากมากมาย แต่ว่าหนังประเด็นนี้กลับทำเป็น แถมทำเป็นดีเลิศด้วย ดีเลิศจนถึงไม่มีที่จะติเตียนเลย แม้กระนั้นภาคต่อหัวข้อนี้มิได้มีดีเพียงแค่เรื่องบทแค่นั้น เพราะเหตุว่าส่วนอื่นๆที่เหลือเองก็ทำออกมาได้เยี่ยมที่สุดรวมทั้งยกฐานะมากยิ่งกว่าเดิมกว่าภาคแรกเช่นกัน อีกทั้งด้านการแสดงที่ก็ไม่มีที่ติเตียนเหมือนกัน ผู้แสดงทุกคนเล่นคืนดีกันมากมายๆรวมถึงผู้แสดงชุดใหม่ที่พึ่งจะเข้ามาในภาคนี้ก็แสดงกันได้สมหน้าที่กันทุกคน ซึ่งถ้าหากใคร่รู้ว่าแสดงดีขนาดไหนทุกคนจำต้องไปดูคุ้นเคย
ในส่วนของเซนเดย์อา ถึงแม้นักแสดงชานีของคุณมองผิวเผินเสมือนเป็นเพียงแค่หญิงสาวที่พอลมัวแต่คลุ้มคลั่งรัก ฝันเฟื่องถึงในนิมิตรแต่ว่าจุดที่ทำให้ซานีพอใจพอล กลายเป็นความสามารถการสู้รบซึ่งความรักของคุณที่เกิดขึ้นก็สอดคล้องกับอุดมการณ์ของการหานักสู้ไปร่วมปลดปล่อยเฟรเมนที่ถูกจักรพัตราธิราชข่มขี่ในดินแดนด้านเหนือ ด้วยเหตุนั้นนักแสดงชานีของเซนเดย์อาจึงเรียกร้องดาราที่รู้เรื่องในความพังทลายรวมทั้งรู้เรื่องได้ว่าเพราะเหตุไรชานีถึงไม่เห็นพ้องกับคำพยากรณ์ที่พอลเป็นมาห์ดีหรือหัวหน้าสาร รวมทั้งในซีนที่ศีรษะหัวใจของชานีแตกสลาย เซนเดย์อาก็ถ่ายทอดมันออกมาได้ดีเยี่ยมจริงๆ
ความเชื่อมโยงของ Paul และก็ Chani ที่บานท่ามกลางการสู้รบกึ่งกลางทะเลทราย
มั่นใจว่าฉากสำคัญที่คนอีกหลายๆคนต้องการมองเห็นในภาคนี้เป็นฉากมหาการศึกระหว่างชาว Fremen, Harkonnen และก็กองทัพของจักรพัตราธิราช Padishah Shaddam IV (Christopher Walken) แม้กระนั้นสำหรับผู้กำกับ Denis Villeneuve ส่วนสำคัญที่เคลื่อนเรื่องราวทั้งปวงของ Dune: Part Two เป็นความเกี่ยวเนื่องของสองผู้แสดงหลักอย่าง Paul แล้วก็ Chani (Zendaya)
“ภาพยนตร์เรื่องแรกเชิญชวนให้ผู้ชมคิดมากมากยิ่งกว่า เกิดเรื่องราวของหนุ่มน้อยที่ตรวจสอบโลกใบใหม่ mamepanapollo แต่ว่าสำหรับภาคนี้มันเป็นการสู้รบ อย่างไรก็แล้วแต่ แก่นแท้ของภาพยนตร์เป็นเรื่องราวความรักระหว่าง Paul รวมทั้ง Chani Paul จะก่อให้คุณวางใจได้เช่นไร คุณจะเปิดใจให้เขายังไง และก็พวกเขาจะหาทางปล่อยโลกนี้จากมือของพวก Harkonnen ยังไง ภาพยนตร์จะเต็มไปด้วยมวลความรู้สึกพวกนั้น” Denis Villeneuve เล่าถึงส่วนสำคัญของภาพยนตร์หัวข้อนี้
หนังที่เล่าการบ้านการเมืองโดยให้พระราชาธิราชชักใยให้สองเครือญาติฟาดฟัน หวังตัดทอนพลังรวมทั้งสร้างความยั่งยืนให้ตัวเอง เล่าของเชื้อสายใหญ่ที่มัวแต่โกยผลตอบแทนโดยไม่ใส่ชนพื้นเมือง เล่าการปรับตัวกับธรรมชาติ ที่ขัดกับแนวความคิดปรับปรุงดาวแต่ว่าด้วยเหตุว่ากลัวสูญเสียของที่มีค่ากระทั่งทำให้ความเคลื่อนไหวไม่เคยเกิดขึ้น เล่าบรรพชิตที่มองไม่มีพิษสงแม้กระนั้นทรงทรงอำนาจเกินคาดคิด การมอบอำนาจไปอยู่ในมือคนๆเดียว ผู้คนต่างหวังพึ่งพาอาศัยคนๆเดียว มันก็เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง แล้วก็ยังมีอีกเยอะมากในหนังสือแม้กระนั้นจำเป็นต้องลดไปเพื่อการเล่าในแบบภาพยนตร์
ด้วยโปรดักชั่นที่สุดยอดเยี่ยม ดีไซน์งานสร้างอย่างสุดเริ่ด ถึงพร้อมวิธีการสร้างภาพที่ประณีต ประสานกับดนตรีประกอบยอดเยี่ยมยอดเยี่ยม มุมมองภาพสุด Cinematic ใช้ส่วนประกอบแล้วก็ความเป็น IMAX ได้อย่างเต็มเปี่ยม รวมทั้งการแสดงที่สะดุดตาไม่มีผู้ใดยอมคนใดกัน พูดได้ว่า นี่เป็นผลงานที่เจิดรุ่งเรืองสูงสุดของผู้กำกับคนนี้ เดนิส วิลเนิฟ
ส่วนท้ายที่สุดเป็นด้านงานภาพรวมทั้งการโปรดักชั่น ส่วนนี้เป็นจัดเต็มมากกว่าภาคแรกอีก งานภาพงามมากมาย งามทุกซีนจริงๆมุมกล้องถ่ายภาพดีเลิศ การจัดแสงสว่าง เงา โทนสี การจัดฉาก ไปจนกระทั่งรูปร่างและการแต่งตัวผู้แสดง ทั้งหมดทุกอย่างสมบูรณ์แบบหมด ฉากยิ่งใหญ่วิจิตรตระการตามากมาย โดยยิ่งไปกว่านั้นฉากการสู้รบด้านหลังเรื่องเป็นยอดมาก งานเริ่ดสุดๆ